"อากาศจะวิปริต เพราะความเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลของแดด ลม ฝน หรือสิ่งแวดล้อม จะสับสนเพราะการโยกย้ายรื้อถอนอย่างชุลมุนวุ่นวายของมนุษย์ สักเพียงใด สุนัขของเขาก็ยังพยายามค้นหาจนพบที่หลับนอน ตรงนั้นนิด ตรงนั้นหน่อย ลองนอนดู เพียงสองสามนาทีเท่านั้น มันก็รู้ว่าเหมาะหรือไม่เหมาะ ถ้าไม่เหมาะก็ย้ายใหม่ มันทำดังนี้เรื่อยไปไม่กี่ครั้งก็พบที่อันเป็นสุขจริงและหลับสนิท มันไม่เป็นโรคเรื้อนชนิดที่ต้องเกาอยู่เสมอจนหาที่นอนอันเป็นสุขไม่พบในโลกนี้
แต่สำหรับเจ้าของมันเองนั้น อะไรๆ ที่ใดๆ อย่างไหนๆ ระดับไหนๆ ก็ไม่เคยให้ความเป็นสุขและพอใจ ดิ้นรนจนตายจิตก็ไม่เคยประสบกับภาวะแห่งความสะอาด สว่าง และสงบเย็น ที่แม้แต่จะทำให้หลับสนิทจริง ๆ ได้ เขาตกอยู่ในลักษณะของสุนัขโรคเรื้อนชนิดที่ต้องการข่วนตัวเองอยู่เสมอ เขาไม่สามารถทำให้เกิดการโยกย้าย เปลี่ยนแปลงชนิดที่ค่อย ๆ เลื่อนสูงขึ้นไป จนกระทั่งพบสภาพอันเป็นที่จุใจดังเช่นสุนัขของเขาเอง ซึ่งไม่กี่นาทีก็ค้นพบที่นอนอันสุขสงบ ทั้งๆ ที่มันเป็นเพียงสุนัข แต่เขาเป็นถึงอาจารย์ที่ทำการฝีกสอนอะไรหลายๆ อย่างให้สุนัขของเขาทุกวันด้วยความขยัน และบางครั้งยังแถมตีมันด้วย เพราะเขาถือว่าเขาเป็นนายของมัน
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า มันเป็นการเหลือวิสัยของพระเป็นเจ้าหรือสิ่งใด ๆ ทั้งสิ้นที่จะทำให้สุนัขนั้นเต็มไปด้วยความดิ้นรน ทะเยอทะยานและวิตกกังวลนานาประการ จนค้นหาที่นอนหลับสนิทไม่ได้อย่างเจ้าของของมันเอง ความอยากได้นั่นได้นี่ มีนั่น มีนี่ เป็นนั่น เป็นนี่อย่างไม่มีขอบเขตของเขา จนกระทั่งได้เป็นเจ้าของและเป็นครูบาอาจารย์ของสุนัขแล้ว ก็ยังหาโอกาสสงบอารมณ์ให้มากและให้เหมือนสุนัขตัวนั้นก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นใครเล่าจะเป็นที่น่าสมเพชกว่าใครในระหว่างสิ่งมีชีวิตทั้งสองนี้"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น